สำนักงานก่อสร้าง 1 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ดู: 2940|ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

บทความพิเศษ "วันชูชาติ"

[คัดลอกลิงก์]

141

กระทู้

0

เพื่อน

718

เครดิต

เพศ
หญิง
ความดี
0
เว็บบล็อก/เว็บไซต์ส่วนตัว
เงิน
577
พลังน้ำใจ
0
สิทธิ์อ่าน
200
เครดิต
718
ลงทะเบียน
9-8-2012
ล่าสุด
25-8-2015
ออนไลน์
232 ชั่วโมง
UID
1

เข็มประดับยศ 1 เข็มประดับยศ 3 เข็มประดับยศ 5 เข็มประดับยศ 8

รู้หรือไม่ว่าวันนี้ (วันที่ 4 มกราคม) เป็นวันสำคัญของชาวกรมชลประทาน นั้นคือ "วันชูชาติ" วันนี้เราจึงประวัติและความเป็นมาของ"วันชูชาติ"มาฝากทุกคนกันค่ะ

บุคคลที่มีความสำคัญใน"วันชูชาติ" คือ หม่อมหลวงชูชาติ กำภู เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.244...8 ที่ตำบลประตูสามยอด อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร เป็นบุตรคนโตของพลตรี พระยาสุรเสนา (ม.ร.ว.ชิต กำภู) และคุณหญิงผอบ สุรเสนา ท่านได้รับพระราชทานนาม “ชูชาติ” จากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ท่านมีน้องชายหญิงร่วมบิดามารดา 12 คน

kpshistory.jpg

หม่อมหลวงชูชาติ กำภู เริ่มการศึกษาในโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ เมื่อ พ.ศ.2457 ศึกษาจบได้รับประกาศนียบัตรชั้นมัธยมบริบูรณ์ เมื่อมีอายุได้ 17 ปี และสอบชิงทุนได้รับทุนเล่าเรียนหลวงให้ไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ ได้เข้าศึกษาที่ St. Peter’s School, York, England เมื่อ พ.ศ.2466 เป็นเวลา 2 ปี แล้วจึงเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ City and Guild’s Engineering College, London University เมื่อ พ.ศ.2468 ศึกษาอยู่ 5 ปี สำเร็จการศึกษาขั้นปริญญาโททางวิศวกรรมโยธา ได้รับประกาศนียบัตรและปริญญาบัตร A.C.G.I., B.Sc. ทางวิศวกรรมโยธา A.D.I.C. (Advanced Diploma of Imperial College) และปริญญาโท M.Sc. ทางคอนกรีตและไฮโดรลิกส์ ใน พ.ศ.2472 ได้เข้าฝึกงานด้านวิศวกรรมโยธา ในกรมโยธาธิการของอังกฤษ 1 ปี กลับประเทศไทย เข้ารับราชการในกรมชลประทาน เมื่อ พ.ศ.2473

หม่อมหลวงชูชาติ กำภู บรรจุเข้ารับราชการในกรมชลประทาน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2473 จนเกษียณอายุราชการ รวมเวลารับราชการ 36 ปี และเข้ารับราชการในกรมชลประทานเพียง 18 ปี ก็ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทาน เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2492 และได้ดำรงตำแหน่งนี้ต่อมาอีกเป็นเวลานานถึง 18 ปี

ผลงานทางด้านวิชาการของท่าน ท่านได้เขียนตำราว่าด้วยน้ำฝน น้ำท่าของประเทศไทยไว้เป็นคู่มือที่ใช้ในงาน กับเป็นการเผยแพร่ความรู้ในเรื่องน้ำ สืบมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ และผลงานการค้นคว้าปรากฏการณ์ ของน้ำฝน น้ำท่า ได้เขียนเป็นวิทยานิพนธ์ นำเสนอราชบัณฑิตยสถาน เป็นผลให้หม่อมหลวง ชูชาติ กำภู ได้รับแต่งตั้งให้เป็นราชบัณฑิตในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2485

ผลงานที่ดีเด่นทางด้านอื่น เนื่องจากผลงานของกรมชลประทานภายใต้การนำของ หม่อมหลวงชูชาติ กำภู เป็นที่ประจักษ์และได้รับความไว้วางใจจากทุกรัฐบาลตลอดมา ดังนั้น นอกจากงานในหน้าที่ของกรมชลประทานโดยตรงแล้ว รัฐบาลยังมอบหมายให้ หม่อมหลวงชูชาติ กำภู จัดตั้งเหมืองลิกไนท์ ขององค์การลิกไนท์ ก่อตั้งบริษัทชลประทานซีเมนต์ จำกัด โรงไฟฟ้าที่บางกรวย โรงไฟฟ้าลิกไนท์ที่กระบี่ ก่อตั้งบริษัทปุ๋ยเคมีและโรงงานปุ๋ยเคมีที่แม่เมาะ จังหวัดลำปาง และก่อตั้งบริษัทอุตสาหกรรมเครื่องจักรไทย จำกัด

ผลงานและประสบการณ์ งานในระดับระหว่างประเทศ ท่านเคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาธนาคารโลก และเคยดำรงตำแหน่ง เป็นรองประธานองค์การ International Commission on Irrigation and Drainage

ประวัติการทำงานและการดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ของท่านมีดังนี้

พ.ศ.2475 ได้รับพระราชทานยศเป็นรองอำมาตย์เอก

พ.ศ.2475 ดำรงตำแหน่งนายช่างอำนวยการแบบแผนชั้นเซ็กชั่นแนลเอนยิเนียร์

พ.ศ.2477 ดำรงตำแหน่งนายช่างชลประทานภาคนครนายก

พ.ศ.2480 เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นเอกและดำรงตำแหน่งนายช่างอำนวยการแบบแผน

พ.ศ.2490 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นพิเศษและดำรงตำแหน่งนายช่างใหญ่กรมชลประทาน

พ.ศ.2491 ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทานอีกตำแหน่งหนึ่ง

พ.ศ.2492 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมชลประทาน

พ.ศ.2498 ได้รับเงินเดือนพิเศษ อันดับ 3 ขั้น (เทียบได้กับ ซี 11 ปัจจุบัน) 1,400 บาท ซึ่งเป็นอัตราเงินเดือนขั้นปลัดกระทรวงเป็นกรณีพิเศษสำหรับอธิบดี

พ.ศ.2499 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี(วันที่ 18 สิงหาคม 2499 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2500) และยังคงเป็นอธิบดีกรมชลประทาน

พ.ศ.2507 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ (วันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2507 จนสิ้นสมัยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2512) และยังคงเป็นอธิบดีกรมชลประทาน

พ.ศ.2508 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2508 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2510) อีกตำแหน่งหนึ่ง

พ.ศ.2509 พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทานด้วยเหตุสูงอายุ แต่ท่านยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติอยู่ต่อไปจนสิ้นสมัย

พ.ศ.2512 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติอีก เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2512 และยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการอยู่จนถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2512

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับคือ

เหรียญรัตนาภรณ์ ภ.ป.ร. ชั้นที่ 3 (พ.ศ.2498)
มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (พ.ศ.2500)
ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (พ.ศ.2505)
เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (พ.ศ.2507)
สายสะพายจากประเทศออสเตรีย (The Silver Grand Cross with Sash for Merit to the R epublic of Austria) (พ.ศ.2509)

หม่อมหลวงชูชาติ กำภู ได้สมรสกับคุณหญิงโฉมศรี กำภู ณ อยุธยา ธิดามหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาพลเทพ (เฉลิม โกมารกุล ณ นคร) และคุณหญิงสว่างพลเทพ มีบุตรธิดา 2 คน คือ นายคาวี กำภู ณ อยุธยา และนางสาวสุธาทิพย์ กำภู ณ อยุธยา ขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ท่านเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยขึ้นในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน เป็นครั้งแรก โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร เป็นคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยคนแรก

chuchart-2.jpg

ผลงานที่เกี่ยวข้องกับวิทยาเขตกำแพงแสน ในช่วงที่หม่อมหลวงชูชาติ กำภู ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นระยะเวลาที่จะต้องดำเนินงานตามโครงการปรับปรุงและขยายงานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในระยะ 5 ปีแรก (พ.ศ.2510-2514) ที่จะขยายงานให้สามารถรับนิสิตได้ถึง 5,000 คน และในระยะ 5 ปีที่ 2 (พ.ศ.2515-2519) ให้สามารถรับนิสิตได้ถึง 10,000 คน ตามมติของสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในขณะนั้น โดยมีรายละเอียดเหตุผลที่สำคัญดังนี้

1.ความต้องการนักวิชาการในระดับปริญญาตรี สาขาต่าง ๆ ของวิชาที่เกี่ยวกับการเกษตร จะมีมากกว่า 400 คน ต่อปี
2.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต้องขยายงานเพื่อรับนิสิตให้ได้เกินกว่า 5,000 คน ในอนาคต
3.จัดหาสถานที่เพื่อรับแผนการขยายงาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2515-2519)

เพื่อให้การขยายงานของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินไปตามมติของสภามหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ดังกล่าว หม่อมหลวงชูชาติ กำภู ได้พิจารณาจัดซื้อที่ดิน ที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1.ดินที่อำเภอกำแพงแสน เป็นดินดีเหมาะกับการเพาะปลูก
2.ที่ดินจะได้รับแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์จาก การชลประทานจากคลองที่จะขุดมาจากคลองส่งน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เดิม) ปัจจุบันได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นเขื่อนแม่กลอง
3.อาณาเขตที่ดิน ถูกล้อมรอบด้วยถนนทั้ง 4 ด้าน โดยทิศเหนือจรดถนนจันทรุเบกษา ทิศใต้จรดถนนลาดยางของกรมชลประทาน ทิศตะวันตกจรดทางรถไฟสายนครปฐม – สุพรรณบุรี ทิศตะวันออกจรดถนนมาลัยแมน
4.ที่ดินแปลงนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองนครปฐม 20 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ 80 กิโลเมตร
5.ที่ดินแปลงนี้มีเนื้อที่ประมาณ 8,000 ไร่ เป็นพื้นที่มีขนาดใหญ่เหมาะสมกับการก่อสร้างให้เป็นสถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่จะมีศักยภาพรองรับการขยายตัวจำนวนนิสิตได้เกินกว่า 10,000 คน ขึ้นไปในระยะยาว

จึงนับได้ว่าหม่อมหลวงชูชาติ กำภู เป็นปรมาจารย์ผู้ริเริ่มในการเลือกสรรพื้นที่ก่อสร้างมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ณ วิทยาเขตกำแพงแสน และท่านก็มีบทบาทที่สำคัญในการให้ได้มาซึ่งงบประมาณก่อสร้างวิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งวิทยาเขตแห่งนี้ก็ได้พัฒนา และเจริญก้าวหน้ามาตามลำดับจนกระทั่งปัจจุบัน สามารถบรรลุเป้าหมาย สมดังเจตนาของท่านได้พอสมควร

ผลงานของหม่อมหลวงชูชาติ กำภู ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชนอย่างอเนกอนันต์ยังมีอีกมาก ที่ไม่สามารถนำมากล่าวไว้ในเอกสารอันมีเนื้อที่จำกัดนี้ได้ และผลงานของท่านก็เป็นที่ประจักษ์ทั่วไปทั้งใน วงราชการและวงการสังคมทั้งภายในและต่างประเทศ จึงนับได้ว่าท่านเป็นอัจฉริยะบุรุษและเป็นปรมาจารย์ผู้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้กับองค์กรทุกแห่งที่ท่านมีโอกาสได้ทำงาน สมควรที่คนรุ่นหลังจะยึดถือไว้เป็นแบบอย่างในการทำงานเพื่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าแก่ส่วนรวมและประเทศชาติบ้านเมือง

ขอบคุณที่มาจาก :  https://www.facebook.com/#!/raorukcholpratan?fref=ts และเอกสารจากหอประวัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

คัดลอกลิงก์
บุคคลนิรนาม  โพสต์เมื่อ 17-1-2015 02:56 PM

wINpfQHvzgtYm

Thanks for writing such an eantato-usdersy-nd article on this topic.

คัดลอกลิงก์
บุคคลนิรนาม  โพสต์เมื่อ 18-1-2015 11:58 AM

zloOpyzPEuw

I <a href="http://rhnsoiopjut.com">reockn</a> you are quite dead on with that.

คัดลอกลิงก์
บุคคลนิรนาม  โพสต์เมื่อ 18-1-2015 04:09 PM

vNPSvajbSUPTwx

I never thought I would find such an everyday topic so <a href="http://owvzrezrjr.com">enihlalrtng!</a>

สำนักงานก่อสร้าง 1 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง

html code

GMT+7, 3-5-2024 11:18 PM , Processed in 0.016715 second(s), 7 queries , Apc On. Mod Edit by Mr.Dorn

สำนักงานก่อสร้าง 1 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง
เลขที่ 58 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองแหย่ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
โทร.0-5310-4581 โทรสาร. 0-5310-4582
E-mail : ridmidscale01@gmail.com
ผู้รับผิดชอบดูแลเว็บไซต์ : นางพีรญา ร่มป่าตัน (นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ)

ขึ้นไปด้านบน